วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บทความโดนใจ ยอดขายโดนตัว --- บทความในเว็บท่านมีผลต่อยอดขายอย่างไร?

     เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งข้อมูลข่าวสารมานานแสนนานแล้ว แต่ไฉนเลยจึงมองข้ามสิ่งเหล่านี้ จนทำให้ยอดขายตกลงแบบกู่ไม่กลับ
     
    ผลิตภัณฑ์ที่สุดแสนวิเศษ ผ่านการคิดค้น กลายเป็นนวตกรรมที่ไม่เคยค้นพบที่ไหนในโลกใบนี้ จะมีประโยชน์อันใดหากท่านกอดกุม อนุรักษ์ไว้เพียงแต่ตัวของท่านเอง เชื่อเถอะครับว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะรอวันสูญพันธุ์ไปกับท่าน โดยไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆให้กับลูกหลาน รวมถึงโลกใบนี้

    ฉะนั้นสิ่งสำคัญ คือ ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าเรามีของดีอยู่ในมือ ให้ผลิตภัณฑ์ดีๆของท่านออกสู่สาธารณ สร้างประโยชน์มหาศาลแก่มวลมนุษยชาติ และทางที่จะประกาศแบบได้ผลเร็วที่สุดแบบฉบับการตลาดยุคใหม่ คือ การใช้ระบบออนไลน์เข้ามาเป็นโทรโข่งยักษ์ จากเมื่อก่อนบอกต่อได้แบบ 1 ต่อ 1 แต่เราใช้ออนไลน์บอกต่อได้มากว่า 1 ต่อ ล้านๆ จนต้องร้อง ว้าววววววววววววววว !!!!

    หลายท่านเริ่มเข้าใจเรื่องที่ผมร่ายมาข้างต้น จึงตัดสินใจบอกตนเองว่า "ตรูต้องมีเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อการปรากฎกายให้โลกรู้ว่า ฉันเกิดแล้วนะ บนโลกออนไลน์" จากนั้น ท่านก็ดั้นด้นแสวงหาแบบมีเวลาเยอะหน่อย และชอบลองของแปลกก็เรียนรู้เอง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย บางคนไม่อย่างงั้นชอบแบบมะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ไปใช้เว็บสำเร็จรูปที่มีเจ้าใหญ่ที่เขาให้บริการอยู่ เช่น tarad.com หรือ weloveshopping.com/  หรือขี้เกียจจัดแบบกระเป๋าหนักก็จ้างคนเก่งๆเขาทำ เดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายเจ้าครับ แล้วแต่ชอบละกัน




    หลังจากนั้นไม่นานท่านก็ทำตัวเป็นเถ้าแก่ออนไลน์ นั่งเฝ้าร้านปัดแมงวันอยู่พักใหญ่ๆ จะเริ่มมีปัญหาที่คล้ายคลึงกันคือ "ทำไม? ทำไม? และทำไม? ไม่มีลูกค้าสักกะคนเข้าร้านเลย เกิดอันใดขึ้นเนี่ย อุตสาห์ทำร้านสะสวย ใช้งานก็ง่าย เฟซเฟิดก็แพรวพราว ขนาดนี้ ทำไมคนไม่เข้าร้านอะ?" บ่งตงครับว่าเว็บดีเลิศขนาดนั้นท่านไม่ลงมือทำ การตลาดออนไลน์ เพื่อเรียกแขกคนเข้าร้านเขาจะรู้ไมครับ อย่าลืมนะครับว่าจำนวนร้านค้าออนไลน์ในโลก WWW มันมีนับล้านๆๆๆๆๆๆๆร้าน ร้านค้าของคุณก็เปรียบเสมือนฝุ่นผงที่ร่องลอยอยู่ในโลกออนไลน์ หากไม่มีการป่าวประกาศให้โลกรู้

    เรื่องการทำ การตลาดออนไลน์ ผมไม่ลงลึกมากมายนักเพราะหาความรู้กันได้กับ อาจารย์ Goo(gle) แต่ประเด็นสำคัญที่อยากลงรายละเอียดคือ การตลาดออนไลน์โดยใช้เนื้อหาดึงดูดทั้งคนและ กูเกิลให้สนใจเราเพื่อจะจัดวางลำดับเราดีๆในหน้าแรก หรือเรียกยาวๆว่า Search Engine Optimization หรือเรียกสั้นๆว่า SEO (ภาษาสนุกๆอ่านว่า เสี่ยว) 


    

      ทำไมถึงต้องใช้บทความดึงดูดลูกค้า ?
    ทำไมถึงต้องติดหน้าหนึ่งของ Google ?
     แล้วสิ่่งที่พูดถึงทั้งสองข้อมีผลต่อยอดขายอย่างไร?

 ใจเย็นๆมีคำตอบทั้งหมดครับ.....


ทำไมถึงต้องใช้บทความดึงดูดลูกค้า ?  

       การทำตลาดออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ ยุคสมัยที่ผู้บริโภคมีอำนาจมากกว่าผู้ขาย หรือที่เรียกว่า Smart Consumer ผู้บริโภคที่ชาญฉลาด สามารถหาข้อมูลได้เองตาม อินเตอร์เน็ต ผู้รู้ สื่อสิ่งพิมพ์ วิเคราะห์ข้อมูลและสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง เราจะพบบ่อยครั้งว่า ลูกค้าเมื่อเดินเข้าร้านจะสามารถระบุ ยี่ห้อ รุ่น รวมถึงรายละเอียดสินค้าได้อย่างแม่นยำ บางครั้งหน้าที่ของพนักงานขายมีเพียงแต่ตอบข้อสงสัยเล็กๆน้อยๆ (หรือบางทีแทบไม่ต้องตอบคำถามใดๆ)และหยิบของและรับตังค์เท่านั้น
        เพราะฉะนั้นการทำตลาดนำรูปแบบดันไปเพื่อดึงกลับ ขายสินค้าแบบพูดแต่เรื่องของตนเอง  ของตัวเองนั้นดีที่สุดในโลก ขายแบบยัดเยียดย่อมใช้ไม่ได้ผลกับยุคแห่งผู้บริโภคที่ชาญฉลาดแบบนี้ แต่ต้องหันกลับมามองเรื่อง "การตลาดของการให้ก่อน" ซึ่งการให้ในที่นี้ไม่ได้มองแค่เรื่อง การลด แลก แจก แถมเท่านั้น การให้ในที่นี้ คือ การให้ข้อมูล การให้ความรู้ อันมีประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาต่างๆของลูกค้า. ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลไปยังการตัดสินใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

    
ทำไมถึงต้องติดหน้าหนึ่งของ Google ?

       การทำการตลาดออนไลน์ยอดนิยมฮ๊อตฮิต คือ การทำการตลาดออนไลน์แบบเอาใจ Google เพื่อให้กูเกิลยอมกระดับเราขึ้นชั้นเฟรสคลาสเมื่อเวลามีใครเสริซ์ด้วยคีย์เวิร์ดหรือคำสำคัญที่ลูกค้าต้องการ 
       การที่เว็บไซต์เราได้รับเกียรติจากกูเกิลให้ขึ้นไปอยู่หน้าแรก(ยิ่งได้ขึ้นอันดับหนึ่งได้ยิ่งแจ๋วเลยครับ)เปรียบแล้วเหมือนกับสินค้าเราถูกจัดวางบนชั้นบนสุดของชั้นวางสินค้า ย่อมเป็นที่ต้องตา โดนใจลูกค้าได้ดีกว่าสินค้าคนอื่นๆ นั้นหมายถึงว่า สินค้าของคุณจะถูกเลือกก่อนและกลายเป็นยอดขายในเวลาต่อมา
       ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนส่งผลให้เกิดปัจจัยดังกล่าวข้างต้น คือ เรื่องของเนื้อหาหรือ Content ของเว็บไซต์และการที่เว็บไซต์อื่นๆนำข้อมูลจากเว็บไซต์เราไปอ้างอิง หรือที่เรียกว่า Outbound Link  และวลีเด็ดที่เป็นหัวใจสำคัญ ในวงการ. SEO มักกล่าวถึงบ่อยๆ ว่า"Content is King Link is Queen" 
    จะเห็นว่า "บทความ" ก็คือ "เนื้อหา" และคุณเองก็จะเข้าใจแล้วว่า "บทความ" มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายผ่านเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร 

    และถึงเวลาแล้วที่ คุณ คุณและคุณ จะแสวงหาบทความคุณภาพดีๆไปประดับเว็บไซต์คุณส่งผลให้เว็บของคุณเด่น ดัง และพายอดขายทะลุเป้าได้





     
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น