การเขียนบทความเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัวของมัน ศาสตร์คือเราสามารถหาอ่านหาเรียนได้จากตำราหรือผู้รู้ แต่ศิลป์ต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ การลงมือทำจนเกิดความเชี่ยวชาญ แต่บางครั้งเราหลงลืมเทคนิคพื้นฐานจนเป็นการเขียนบทความSEO แบบไร้หลัก ไม่ครบองค์ประกอบ และเกิดผลต่อการละความสนใจจากบทความของเราไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เราจะมาทบทวนหลักพื้นฐานที่เรียกว่า การเขียน 3 ครั้งกันครับ
จริงๆแล้วหลักการเขียน 3 ครั้งเป็นหลักการทั่วไปของการเขียนบทความอยุ่แล้ว บางท่านที่เคยเข้าอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการพูดอาจจะเคยได้ยินเรื่อง การพูดที่ดีต้องพูดให้ครบ 3 ครั้ง เพื่อให้การเล่าเรื่องสมบูรณ์แบบ นั้นคือ เกริ่นนำ เนื้อหา และสรุป เช่นเดียวกับการเขียนบทความเช่นเดียวกัน เราก็ควรจะเขียนให้ครบ 3 ครั้งเหมือนกับการพูดเช่นเดียวกัน
การเขียนครั้งที่ 1 เกริ่นนำ มีส่วนช่วยในการดึงดูดผู้อ่านได้มากรองจากหัวข้อ และเทคนิคสำคัญ คือ เราอาจจะนำข้อความฉุกคิดของตัวเองหรือจากผู้มีชื่อเสียงในวงการนั้นๆ หรือ การตั้งคำถามแบบหน้าติดตามให้กับผู้อ่านได้เปิดใจและอยากอ่านต่อ
การเขียนครั้งที่ 2 เนื้อหา เนื้อหาควรเรียบเรียงเป็นลำดับให้น่าติดตาม ไม่กระโดดไปมาจนน่าปวดหัว โดยอาจจะสอดแทรกข้อมูลสำคัญที่อ้างอิงจากแหล่งน่าเชื่อถือ บวกความคิดเห็นส่วนตัวบ้างเป็นเครื่องปรุงรสให้อ่านเพลินเหมือนกับกำลังเล่าเรื่อง
การเขียนครั้งที่ 3 สรุป การสรุป คือ การย้ำประเด็นสำคัญของเรื่องให้พึงจดจำหรือตระหนักไว้ หากไม่มีการสรุปจะเหมือนกับบทความที่มีลักษณะปลายเปิดไม่สมบูรณ์แบบ ปล่อยให้ผู้อ่านเคว้งคว้างเกินไป ไม่เห็นความสำคัญของเรื่องที่เราเขียน
เมื่อเขียนครบทั้ง 3 ท่านจะพบว่าเนื้อหาของท่านอ่านแล้วอิ่ม ไม่ค้างคาและสามารถสร้างความเข้าใจให้กับผู้อ่านได้ครบถ้วน และในส่วนของ SEO เทคนิคสำคัญ คือ ท่านควรจะมีคีย์เวิร์ดแทรกอยู่ในแต่ละครั้งของการเขียน ทั้งเกริ่นนำ เนื้อหา สรุป ให้ครบทุกครั้งอย่างน้อย 1-2 คีย์เวิร์ด/ครั้ง และเพื่อให้อ่านง่ายและพักสายตาเป็นระยะๆควรใช้เทคนิคเรื่องของการย่อหน้าและเว้นบรรทัดเข้าช่วย (ดูจากตัวอย่างของบทความนี้) เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถเขียนบทความถูกใจผู้อ่าน โดนใจSEOได้แน่นอน
TonyWriter มือปืนรับจ้างเขียนบทความภาษาไทยราคาถูก คุณภาพดี เน้นบทความด้านสุขภาพ ความงาม หาสมาชิก
ให้คำปรึกษาก่อนลงมือเขียนบทความ ติดต่อโดยตรง อีเมล tonywork2010@gmail.com ยินดีให้บริการ **ไม่รับเขียนบทความเกี่ยวกับการพนันออนไลน์/แทงบอลหรือทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย**
วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557
Content is king Link is queen อีกมุมน่ามอง
ในวงการ SEO ประโยคข้างบนอาจได้ยินจนคุ้นหู ได้เห็นจนคุ้นตา แต่หากสังเกตุถึงแนวทางของการปรับเปลี่ยนระบบประมวลผลของพี่ใหญ่ Google ของเราเป็นไปในแนวทางท้าทายการทำ SEO รวมถึงท้าทายสุดๆกับประโยคที่เป็นหัวข้อบทความนี้
ที่ผ่านมาผมเองยอมรับเลยว่ามักมองเรื่องของ Content กับ Link แยกกันทั้งๆที่โดยความนัย ประโยคที่ว่า Content is king Link is queen King และ Queen ขาดกันไม่ได้อยู่แล้ว ยอมรับว่าเรามองข้ามตรงนี้ไป ก็เลยมักใช้วิธีไปก๊อปบทความมาแล้วไปซื้อลิงค์ทีหลัง (ปัจจุบันก็มีบริษัทรับAddหรือsumitเพื่อเรียก Backlink กลับมาที่เว็บเราหลายบริษัท เลือกดีๆครับของแท้ของปลอมมันปนๆกันอยู่)
เมื่อมาศึกษาหาข้อมูลแล้วลงมืปฏิบัติดูก็เลยปิ๊งแว๊บตรงจุดที่ว่า หากว่าเราสร้าง content ที่น่าสนใจเกิดประโยชน์ต่อผู้เข้ามาชมเว็บหรือblog ของเรา และเมื่อ content ของเราปรากฎในระบบ socail network อย่าง facebook คิดดูว่าความเป็นประโยชน์ที่เราสร้างให้กับผู้คนจะเกิดการแชร์ การบอกต่อได้มากขนาดไหน และนี้ละ คือ Link คุณภาพที่เราไม่ต้องเสียงเงินซื้อ เรียกวิธีการนี้ว่า "ใช้คุณค่าแลกคุณค่า" ครับผม
ฉะนั้นต่อไปนี้เราควรจะให้เวลาและลงทุนกับเรื่องของการสร้างคุณค่า content ให้มากขึ้นเพื่อส่งผ่านคุณค่านี้ออกสู่สาธารณะ และสิ่งที่จะได้รับตอบแทนกลับคืนมา คือ link คุณภาพที่ทุกคนเต็มใจให้และที่สำคัญ เขายินดีที่จะพัฒนาตัวเองเป็นลูกค้าชั้นดีของท่านในอนาคตได้แน่นอน
contentคุณภาพ = linkคุณภาพ = ลูกค้าคุณภาพ
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557
บทความสร้างแบรนด์ แบรนด์สร้างยอดให้กระฉูด
ในยุคสมัยแห่งข้อมูลข่าวสารสามารถแปลงเป็นทองคำหรือสินทรัพย์ได้ ผู้ที่มีข้อมูลที่ดี มีคุณภาพกว่าย่อมได้เปรียบ และยิ่งได้เปรียบไปกว่านั้นคือ สามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนได้
การทำตลาดสมัยใหม่จะสังเกตว่ากำลังให้ความสนใจการทำตลาดด้วยการให้ความรู้ผ่านบทความ หรือ Content Marketing มากขึ้น อย่าดูถูกผู้บริโภคสมัยใหม่อย่าง Smart Consumer นะครับ คุณล่อหลอกเขาด้วยโฆษณาชวนเชื่อแบบโบราณๆไม่ได้แล้ว เพราะบางทีเขาอาจจะหัวเราะเสียงดัง แล้วตอกกลับมาจนเราถึงกับหน้าหงายว่า " คุณรู้ได้ยังไงว่า ผมรู้น้อยกว่าคุณ?"
พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่มีความมั่นใจในตนเองสูงมาก เมื่อจะตัดสินใจซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง สิ่งแรกที่จะลงมือทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว คือ การหาข้อมูลทางอินเน็ตผ่านเสริ๊ซเอนจิ้นยักษ์ใหญ่ที่รู้ไปซะทุกอย่างอย่าง Google
เรื่องต่อมา คือ ผู้บริโภคจะพบกับข้อมูลเรื่องของสินค้าที่ระรานตาจนเลือกไม่ถูก แต่แน่นอนว่าข้อมูลที่ถูกพบในหน้าแรกของการค้นหา และยังอยู่ลำดับต้นๆย่อมจะได้เปรียบกว่าชนิดที่ว่า เข้าตากรรมการ แต่ช้าก่อน !!!!!!
ข้อมูลที่เอ่อล้นจนแทบสำลักปรากฎให้เห็นแบบซ้ำๆในหน้าค้นหาของ Google ทำเอาผู้บริโภคก็เริ่มเบื่อ บ่นพร่ำเพ้อไปตามๆกันว่า "ฉันต้องการข้อมูลดีๆ มีคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่ข้อมูลเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีก แถมยังใช้วิธี Hard Sell เอาแต่จะขายของอย่างเดียว ฉันรับไม่ได้ โปรเถิดฟ้า ส่งข้อมูลมูลดีๆมาให้ฉันใช้พิจารณาตัดสินใจที"
และแล้ว....ฟ้าก็เห็นใจ >>>>>>>
ทางออกของเรื่องนี้ คือ การหันมาเขียนบทความแบบไม่ซ้ำใครในแนวของการส่งเสริมแบรนด์ของตนเองกันดีกว่า......
บทความคุณภาพส่งเสริมแบรนด์คุณภาพอย่างไร?
คำว่า "แบรนด์" คือ ความเป็นตัวตนของคุณ และความเป็นตัวตนของคุณจะประทับรอยประสบการณ์สู่ความจดจำของลูกค้า
และคำว่า"ตัวตนของคุณ" ก็เริ่มตั้งแต่ ความคิด,ทัศนคติ,ความเชื่อ,บุคลิกภาพ,พฤติกรรมที่แสดงออกมาไม่ว่าจะเป็น การพูดหรือเขียน
ประเด็นของการ "เขียน" เพื่อแสดงตัวตนของคุณนี้ละที่จะทำให้เกิดความต่าง สร้างความประทับใจในแบรนด์ของคุณได้ ในโลกของการที่คุณมีสิทธิสร้างเนื้อหา(Content)ได้เองนั้นคือ โอกาสที่จะนำพาแบรนด์ของท่านขึ้นสู่พาหนะแห่งบทความคุณภาพไปสู่จุดมุ่งหมายสร้างยอดขายให้พุ่งกระฉูดได้ ซึ่งผมกำลังจะนำคุณเข้าสู่โลกของการใช้ บทความที่มีคุณภาพ สร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพได้ตามขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
1. วิเคราะห์จุดแข็ง / ความชำนาญ สิ่งที่ถนัด/วิธีคิด/ความเชื่อ/ทัศนคติในตัวท่านให้พบ
2. เรียบเรียงและไล่เรียงรายการเป็นข้อๆ
3. เริ่มกำหนดเนื้อหาและหัวข้อเพื่อที่จะนำเสนอตัวตน
4. กำหนดช่องทางการนำเสนอ เช่น Blog,Facebook,Youtube
5. จัดตารางการนำเสนออย่างต่อเนื่อง
6. รับการตอบรับ ทั้งติและชมเพื่อนำมาปรับปรุงต่อไป
อย่าลืมว่า "แบรนด์" ของคุณ คือ "ตัวตน" ของคุณ การแสดงออก ไม่ว่าดีหรือร้าย ย่อมสะท้อนกลับมาสู่ความเป็นแบรนด์ของคุณทั้งนั้น ฉะนั้น การวางแผนเพื่อนำเสนอแบรนด์ที่ดีมีคุณภาพ ย่อมจะส่งผลไปยังแบรนด์ที่มีคุณภาพเช่นเดียวกัน
You are What You Write......
เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
เจ้าของ Blog
contentthaiwriter.blogspot.com
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
เนื้อหาแบบไหน โดนใจคนอ่าน กระแทกใจSEO
เนื้อหาดีๆ โดนๆ ควรค่าแก่การอ่าน เกิดประโยชน์ต่อการอ้างอิง ย่อมอยู่ในสายตาของ SEO เป็นแน่แท้
ว่าด้วยเรื่องการทำ seo ที่ได้เรื่องได้ความจริงๆ ต่างอยู่ในการวิวาทะเชิงสร้างสรรค์ว่า ตกลงว่า เนื้อหาหรือลิงค์อันไหนสำคัญกว่ากัน ถกกันแบบไม่รู้จบเหมือนเถียงกันเรื่อง ไก่กับใข่อันไหนเกิดก่อนกัน?
แต่ความสนใจส่วนตัวมามองกันที่ เนื้อหา(content) กันดีกว่า ผมสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ มองเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงว่า หากเนื้อหาดี มีคุณภาพ ย่อมส่งผลต่อแรงดึงดูดให้ทั้งคนทั้ง Google มาสนใจเราแน่นอน ฉะนั้นเรามาดูกันว่า บทความที่ดีมีคุณภาพน่าสนใจมีคุณสมบัติอย่างไร
@ มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ตระหนักดีว่า ผู้อ่านนำไปใช้แก้ปัญหาในเรื่องนั้นๆได้
@ อ่านสนุก ไม่เยิ่นเย้อ เข้าใจง่าย ( ต้องยอมรับว่าคนสมัยใหม่ไม่มีเวลามากนัก)
@ มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ข้อมูลที่หน้าตื่นเต้นแทรกบ้างพอประมาณ
@ มีการกระจายตัวของ keyword อย่างเป็นธรรมชาติไม่จงใจยัดเยียดจนเกินไป
@ อย่าเน้นขายของจนหน้าเกลียด เขียนให้เป็นธรรมชาติและเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ
@ อ่านจบแล้วน่าเสียดายและอยากติดตามต่อ
@ อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากนำสิ่งที่อ่านไปต่อยอดเพื่อทำอะไรสักอย่าง
นี้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้บทความของคุณน่าสนใจ ดึงดูดคนให้มาสนใจและจากนั้นเขาอาจจะนำบทความของเราไปอ้างอิง นั่นหมายความว่าเราย่อมจะได้ backlink คุณภาพ ซึ่งในที่สุดก็ไม่อาจพ้นสายตาของพี่ goo(gle) ไปได้
แถมท้าย : มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่า ทีมงานกูเกิลพยายามจะปรับระบบอัลกอลิทึมหรือระบบประมวลผลให้ใกล้เคียงกับระบบสมองของคนเข้าไปทุกที รู้แม้กระทั่งว่า บทความไหนซำ้ บทความไหนที่จงใจสแปมkeyword ผมมองว่าในอนาคตถ้าทีมงานกูเกิลปรับระบบอัลกอลิทึ่มให้กลายเป็นสมองอัจฉริยะขนาดนั้นได้ เนื้อหาที่เราเขียนครั้งต่อๆไป คงต้องคิดกันมากขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นแน่แท้
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
สร้างเนื้อหาดีๆ อย่างอื่นจะตามมาเอง
ได้ยินมาบ่อยๆกับวลีอมตะแห่งวงการ SEO ที่ว่า Content is King Link is Queen แต่สิ่งที่เห็นขัดๆคือ ทั้งคน ทั้งกูเกิล สนใจเนื้อหามากกว่า
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ ว่าด้วยเรื่อง การวางกลยุทธ์ด้านสื่อสังคมออนไลน์ มีอะไรมากกว่าที่คิด ผู้เขียนเป็นผู้เชี่วชาญด้านการทำ SEO ระดับเทพคนหนึ่ง ประเด็นสำคัญที่เธอพูดถึงบ่อยๆในหนังสือเล่มนี้ คือ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้เข้าชมเว็บ,บล๊อค รวมถึงระบบโซเซี่ยลมีเดียของเรา จนเกิดการโต้ตอบเชิงสรรค์ ควรค่าแก่การแชร์ หรืออ้างอิงในเว็บอื่นๆ
ผมปิ๊งแว็บขึ้นมา คิดถึงความสำคัญของเนื้อหาแบบสุดๆ เมื่อก่อนมองหาแต่ลิงค์คุณภาพ ซื้อบ้าง หาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางซื้อมากกว่า มองออกไปไกลตัวเกินไป จนสุดท้ายต้องหันกลับมาทบทวนและตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ตัวเองมีดีพอหรือยัง?"
คิดทบทวนได้จึงหัดมาศึกษาและฝึกฝนเรื่อง การสร้างเนื้อหาเชิงคุณภาพ ที่มีความสด ใหม่ไม่เหมือนใครในสไตล์ตนเอง หวังเพียงว่า ผู้คนเข้ามาชมเนื้อหาของเราจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย และคาดหวังมากกว่านั้น คือ เขานำไปแชร์หรือนำไปอ้างอิงสร้างสะพานลิงค์กลับคืนมาให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้าง ซึ่งนั้นก็หมายถึงลิงค์คุณภาพ ที่ใช้หัวใจแห่งการให้แลกมา.....ลึกซึ้งครับ
เราอาจใช้กฎแห่งแรงดึงดูดมาประยุกต์ใช้เพิ่มเติม โดย การจริงใจ จริงจังในการสร้างเนื้อหาเชิงคุณภาพ เพื่อดึงดูดคนคุณภาพเข้าสู่ระบบแห่งคุณภาพที่คุณๆสร้างขึ้นมา แลเมื่อถึงเวลาอันสมควร ทั้งลิงค์คุณภาพ ทั้งระบบประมวลผลเชิงคุณภาพของกูเกิล จะส่งเว็บไซต์ของท่านขึ้นสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)